นาราเป็นเมืองเก่าที่สำคัญเมืองหนึ่งของคันไซ เนื่องจากเมื่อ 1,300 กว่าปีก่อน นาราเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของญี่ปุ่น ซึ่งในสมัยนั้นศาสนาพุทธเจริญรุ่งเรืองมาก มีการสร้างวัดขึ้นมากมาย ซึ่งยังคงเหลือร่องรอยมาจนถึงปัจจุบัน และสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือวัดวาเก่าแก่หลายแห่งที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว การตามหาของกินที่มีชื่อในเมืองนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของเราที่จะไม่พลาด ซึ่งนาราก็มีอาหาร Traditional โดดเด่นเฉพาะมากมาย เราจะมารีวิวกันเลยนะค้าาาา 😋
เริ่มจากนั่งรถไฟ Kintetsu จากโอซาก้า ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงสถานี Kintetsu Nara ซึ่งเป็นสถานีหลักของเมือง ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยว และยังเป็นจุดต่อรถเมล์ แท็กซี่ มีถนนคนเดิน ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกเพียบเลยค่ะ แต่ในวันนี้เราเลือกวิธีการเดินเที่ยว ชิวๆ ล่ะกันค่ะ เพราะขึ้นรถเมล์ไม่เป็น- -"
เดินมาที่แรกก็จะเจอพิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา (Nara National Museum) ตั้งอยู่ภายในสวนนารา เป็นอาคารที่ก่อด้วยอิฐตามแบบตะวันตก ที่สร้างเมื่อ 100 กว่าปีก่อน เป็นที่รวมผลงานศิลปะ ของเก่าโบราณ ค่าเข้าชม 500 เยนค่ะ
มีเรื่องเล่าของกวางในนารา...กวางถูกยกย่องให้เป็นสัตว์รับใช้ของเทพเจ้า ถือเป็นมรดกทางธรรมชาติและสัญลักษณ์ประจำนาราอีกด้วย (เล่าสั้นมากกก - -")ใครถือถุงขนมไป รับรองโดนกวางตื้อไม่เลิกจนกว่าจะได้กินค่ะ ^^"
ขากลับจากวัดโทไดจิ ก็มาแวะร้านขายคาคิโนะฮะซูชิ (Kakinohazushi) คือซูชิที่หาทานได้ในนาราและวาคายามาเท่านั้น เป็นก้อนรูปสี่เหลี่ยมห่อด้วยใบพลับดอง ใส่แพจเกจสวยงาม เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากค่ะ 👍
เดินต่อมาจนถึงวัดโคฟุคุจิ (Kohfuku-ji Temple) วัดแห่งนี้สร้างครั้งแรกในเกียวโตเมื่อปี ค.ศ.669 แต่ถูกย้ายมาที่นาราในปี ค.ศ. 710 ซึ่งเคยถูกเผาทำลายหลายๆครั้ง และถูกลืมเลือนในบางช่วงเวลา ปัจจุบันที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ออกจากวัดโคฟุคุจิ เป้าหมายต่อไปคือย่านเมืองเก่านารามาชิ ตัดสินใจนั่งรถเมล์ เพราะดูจากแผนที่แล้วว่าเดินไปไม่ไหวแน่ๆ พอถึงป้ายคนขับก็บอกให้ลง แล้วคือยืนงงสักพัก หยิบไอแพดเปิดแอพ maps.me ที่เป็นแผนที่ offline แล้วก็เริ่มออกเดิน โดยมีวัยรุ่นคนจีน 2 คนยังยืนงงเหมือนเราอยู่ตรงป้ายรถเมล์ แต่แบบว่าจะชวนคุยก็ไม่กล้า แต่เห็นเค้ามากันสองคน น่าจะเอาตัวรอดได้นะ เราไปก่อนล่ะกัน แฮ่ๆ (ที่ไม่ชวน เพราะตัวเองยังไม่แน่ใจเลยว่าจะไปถูกทางรึเปล่า - -" ) แล้วเราก็ดิ่งเข้าซอยซึ่งไม่รู้เลยว่าใช่ทางที่จะไปไหม เดินๆไป ไม่พบเจอสิ่งมีชีวิตเลย T_T เริ่มไม่แน่ใจจนมาเจอศาลเจ้า Goryo และแผนที่เมือง พอที่จะบอกทางไปต่อได้ค่ะ ^^"
หลังจากเดินหลง งงๆ ถามทางฝรั่งนักท่องเที่ยวด้วยกัน ก็มั่นใจแล้วว่ามาถูกทาง เพราะเริ่มเห็นตัวอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ มีป้ายบอกถึงว่าได้สร้างในยุคสมัยใด ซึ่งตามหนังสือบอกว่าหลายคนไม่รู้จักสถานที่นี้ เพราะชื่อนารามาชิแทบไม่มีในแผนที่ เมืองเก่าที่เงียบสงบนี้สร้างในสมัยเอะโดะและเมจิ...เห็นบอกกันมาว่า คนพื้นที่เท่านั้นถึงจะรู้จักสถานที่เหล่านี้ดี...รู้สึกภูมิใจในตัวเอง ที่ตามหาเธอจนเจอ ^^"
เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอขนมโยะโมะงิที่ตามหา ที่ร้าน Nakatani Dou ซึ่งมานาราแล้วต้องไม่พลาด ทำกันสดๆใหม่ๆ ความอร่อยของโมจิร้านนี้การันตีด้วยตำแหน่งแชมป์จากรายการทีวีแชมเปี้ยนถึงสองสมัย แป้งโมจิใส่หญ้าโยะโมะงิสีเขียวกลิ่นหอมเนื้อบางที่ห่อหุ้มถั่วแดงกวน โรยด้วยคินาโกะ(ผงถั่วเหลือง) เมนูนี้ มันฟินมากกกกกก 😋
จบ Half day trip ที่นาราเพียงเท่านี้ค่ะ ยังเหลือวัด ศาลเจ้า สวนพฤกษศาสตร์ รอบๆเมืองที่น่าสนใจอีกมากมาย แต่เพราะปัญหาการเดินทาง ที่ต้องโดยสารด้วยรถเมล์ เพราะใช้บัตร Kunsai Thru Pass กับรถเมล์ที่นี่ไม่ได้ เราก็เลยเปลี่ยนใจไปเก็บตกครึ่งวันบ่ายในโอซาก้าต่อ....แล้วคอยพบกับรีวิวเมืองโอซาก้าเร็วๆนี้ค่ะ ^^